ประวัติของสหกรณ์

ประวัติของสหกรณ์

         สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จำกัด ได้รับจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2543 และได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา ภายใต้ชื่อ “สหกรณ์ออมทรัพย์ สถาบันราชภัฏสวนดุสิต จำกัด” โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนดำเนินการจำนวน 5 ล้านบาท จากสถาบันราชภัฏสวนดุสิต ซึ่งมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศิโรจน์ ผบพันธิน เป็นอธิการบดี และต่อมาเงินทุนดังกล่าว โอนมาเป็นเงินทุนสำรองของสหกรณ์ออมทรัพย์ ในปี พ.ศ. 2543 ซึ่งระยะเริ่มแรก สหกรณ์ได้รับได้เปิดรับสมาชิกเพื่อนเป็นการระดมทุนเรือนหุ้น มีสมาชิก ณ สิ้นปี พ.ศ. 2543 จำนวน 205 คน มีทุนเรือนหุ้นเพียง 694,300 บาท และยังมิได้เริ้มดำเนินธุรกรรมด้านต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสหกรณ์ฯ มีการบริหารจัดการและควบคุมดูแลโดยคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 1 จำนวน 15 คน ซึ่งมี นายลิขิต ปานประยูร เป็นประธานกรรมการคนแรกของสหกรณ์ฯ โดยแบ่งเป็นคณะกรรมการอื่น จำนวน 3 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการเงินกู้ คณะกรรมการศึกษาและประชาสัมพันธ์ มีผู้ตรวจสอบกิจการ จำนวน 5 คน และมีฝ่ายจัดการ 3 คน ประกอบด้วย ผู้จัดการ 1 คน และเจ้าหน้าที่ 2 คน ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 สหกรณ์ออมทรัพย์สถาบันราชภัฏสวนดุสิต จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต” และมีการกำหนดแผนผลยุทธ์ ขึ้นใช้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา เพื่อกำหนดแนวทางในบริหารจัดการสู่เป้าหมาย คือ ประโยชน์สูงสุดของสมาชิก ครบรอบ 20 ปี แห่งการก่อตั้ง ใน วันที่ 29 สิงหาคม 2563 ภายใต้การบริหารจัดการของคณะกรรมการดำเนินการ จำนวนทั้งสิ้น 20 ชุด ซึ่งมีรายนามประธานกรรมการดำเนินการและรายนามผู้จัดการ ดังนี้

          รายนามประธานคณะกรรมการการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จำกัด ดังนี้

     1. นายลิขิต ปานประยูร                                          พ.ศ.2543 – 2546

     2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิทักษ์ จันทร์เจริญ           พ.ศ.255 – 2558

     3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิไล ศรีธนางกูล               พ.ศ. 2559 – 2562

     4. รองศาสตร์ตราจารย์ ดร.ชนะศึก  นิชานนท์           พ.ศ. 2563 – ปัจจุบัน


 2
0 ปีผ่านมา กิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ได้รับความสนใจจากบุคลากรของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกจำนวนมาก ทำให้ ณ สิ้นปี พ.ศ. 2563 สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ มีสมาชิกทั้งสิ้น 500 คน มีทุนเรือนหุ้น 55,251,060 บาท และมีทุนดำเนินงาน จำนวน 65,321,569.82 บาท สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ได้รับค่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีเอกชน เข้ามาตรวจสอบความโปร่งใสในการดำเนินงานของสหกรณ์เป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกรมตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ เรื่องการถ่ายโอนสหกรณ์นอกภาคการเกษตร ที่มีทุนดำเนินการตั้งแต่ 50,000,000 บาทขึ้นไป มีฐานะการเงินมั่นคง และมีระบบการควบคุมภายในที่ดีให้ดำเนินการจัดจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีเอกชนเพื่อตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ในปี พ.ศ. 2553 สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ดำเนินการภายใต้การบริหารจัดการโดยคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 10 จำนวน 15 คน ซึ่งมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิไล ศรีธนางกูล เป็นประธานกรรมการโดยแบ่งเป็นกรรมการฝ่ายต่างๆ จำนวน 4 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการเงินกู้ คณะกรรมการศึกษาและประชาสัมพันธ์ และคณะกรรมการติดตามทวงหนี้ มีผู้ตรวจสอบกิจการ จำนวน 3 คน และมีฝ่ายจัดการ 4 คน ประกอบด้วย ผู้จัดการ 1 คน และเจ้าหน้าที่ 3 คน มีการดำเนินธุรกรรมตามข้อบังคับสหกรณ์ ได้แก่ การรับเงินฝากจากสมาชิก การให้เงินกู้แก่สมาชิกทั้งประเภทเงินกู้ฉุกเฉินและเงินกู้สามัญ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกเมื่อมีความจำเป็น มีสวัสดิการต่างๆ เช่น สวัสดิการรักษาพยาบาล และมีทุนสาธารณประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือสมาชิกกรณีเกิดภัยพิบัติ สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ มีความมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการ เพื่อให้สมาชิกได้รับผลประโยชน์สูงสุด คณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 10 จึงตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อดำเนินงานด้านต่างๆ ขึ้นหลายชุด เช่น คณะกรรมจัดทำแผนกลยุทธ์สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จำกัด คณะกรรมการกำกับดูแลองค์กรที่ดีตามธรรมาภิบาล คณะกรรมการจัดทำแผนงานการดำเนินงานประจำปี คณะกรรมการโครงการประกวดกรรมการดีเด่น เจ้าหน้าที่ดีเด่น และสมาชิกดีเด่น ในปี พ.ศ. 2553 สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ได้จัดทำแผนกลยุทธ์ ระยะ 3 ปี ( พ.ศ. 2554 – 2556) เพื่อเป็นกรอบการดำเนินงานที่มีทิศทางและมีเป้าหมายชัดเจนแสดงถึง การบริหารเชิงรุกเพื่อให้สหกรณ์มีบทบาทในการดำเนินธุรกิจและบริการสมาชิกที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ยังได้รับการจัดระดับมาตรฐานสหกรณ์ ประจำปี พ.ศ. 2553 ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ครบ 7 ข้อ ตามประกาศของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ระดับดีเลิศ ในปี พ.ศ. 2553 จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งนับเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ในรอบการดำเนินงาน 20 ปี